พระผงสุพรรณ
อัพเดทล่าสุด: 16 มิ.ย. 2025
114 ผู้เข้าชม
พระผงสุพรรณ เป็นหนึ่งในพระเครื่องชุดเบญจภาคี หรือที่รู้จักกันในนาม "จักรพรรดิแห่งพระเครื่องเนื้อดิน" ด้วยพุทธลักษณะที่งดงาม พุทธคุณอันเป็นเลิศ และประวัติการค้นพบที่น่าสนใจ ทำให้พระผงสุพรรณเป็นที่ปรารถนาของนักสะสมและพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ
ประวัติการค้นพบและตำนาน
พระผงสุพรรณถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2456 โดย พระพุทธบาทบรมธาตุ (คนฺธรสเถร) หรือ หลวงพ่อเฒ่า อดีตเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ในขณะที่ทำการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระปรางค์ประธานของวัด ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
การค้นพบในครั้งนั้นพบพระเครื่องจำนวนมากบรรจุอยู่ภายในกรุชั้นบนขององค์พระปรางค์ พร้อมกับแผ่นจารึกทองคำโบราณ (ลานทอง) ที่ระบุถึงประวัติการสร้างพระเครื่องชุดนี้ โดยหลวงพ่อเฒ่าได้นำพระเครื่องที่ค้นพบออกแจกจ่ายแก่ผู้ร่วมทำบุญบูรณะวัด และส่วนหนึ่งได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่กุฏิของท่าน
ตามจารึกบนลานทอง ระบุว่า พระมหาเถรปิยะทัสสี เป็นผู้สร้างพระผงสุพรรณขึ้นในสมัย พระเจ้าบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 19-20 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน นอกจากนี้ ในจารึกยังกล่าวถึงพิธีการสร้างที่พิถีพิถัน โดยใช้มวลสารศักดิ์สิทธิ์นานาชนิด และพุทธาภิเษกโดยพระเถระผู้ทรงคุณวิเศษในยุคนั้น
พุทธลักษณะและเนื้อหามวลสาร
พระผงสุพรรณเป็นพระเนื้อดินเผาที่มีพุทธศิลปะแบบอู่ทองผสมผสานกับทวารวดีเล็กน้อย มีขนาดกะทัดรัด เหมาะแก่การอาราธนาขึ้นคอ พุทธลักษณะที่สำคัญมีดังนี้:
พิมพ์ทรง: โดยทั่วไปมี 3 พิมพ์หลัก คือพิมพ์หน้าแก่: มีพระพักตร์ค่อนข้างยาว สังเกตเห็นเค้าพระพักตร์คล้ายคนมีอายุ ดวงตาโปนเล็กน้อย ปากเม้ม จมูกโด่งเป็นสัน
พิมพ์หน้ากลาง: มีพระพักตร์อิ่มเอิบกว่าพิมพ์หน้าแก่ รูปหน้ากลมมน จมูกโด่ง ปากกว้างกว่าเล็กน้อย
พิมพ์หน้าหนุ่ม: มีพระพักตร์กลมมน อ่อนเยาว์ ดวงตารีเล็ก ปากเล็ก จมูกโด่ง
ปาง: เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร บนฐานบัวเล็บช้าง ด้านหลังเป็นหลังเรียบ หรือหลังลายผ้า
เนื้อหามวลสาร: เป็นพระเนื้อดินละเอียด มีความแกร่ง ผ่านการเผาที่อุณหภูมิพอเหมาะ เนื้อหาของพระผงสุพรรณนั้นมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและตำแหน่งในการเผา โดยแบ่งออกได้เป็น 3 วรรณะหลัก คือวรรณะสีดำ (วรรณะสัมฤทธิ์): มีเนื้อละเอียดแน่น ผิวเป็นมันคล้ายสัมฤทธิ์ เกิดจากการเผาในอุณหภูมิสูงและขาดออกซิเจน
วรรณะสีเขียว (วรรณะหม้อใหม่): มีสีเขียวอมดำคล้ายสีของหม้อที่ถูกเผาใหม่ๆ เนื้อละเอียด เนียนตา
วรรณะสีแดง (วรรณะครั่ง): มีสีแดงเข้มเหมือนสีครั่ง หรือแดงอมส้ม เนื้อค่อนข้างหยาบเล็กน้อย มักพบร่องรอยของแร่ธาตุต่างๆ แทรกอยู่ในเนื้อพระ
จุดเด่นของพระผงสุพรรณคือ "ราดำ" หรือ "รารัก" ที่เกิดจากเชื้อราธรรมชาติที่ฝังตัวในเนื้อพระมานานนับร้อยปี ทำให้เกิดคราบสีดำปกคลุมอยู่ตามซอกพระ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญในการพิจารณาความแท้
พุทธคุณและค่านิยม
พุทธคุณของพระผงสุพรรณ เป็นที่เลื่องลือมายาวนาน โดยเน้นไปในด้าน:
แคล้วคลาดปลอดภัย: ป้องกันภยันตรายทั้งปวง รอดพ้นจากอุบัติเหตุและเหตุร้าย
คงกระพันชาตรี: อยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า หรือได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
เมตตามหานิยม: เป็นที่รักใคร่ของผู้คน ผู้ใหญ่เอ็นดู เจ้านายเมตตา
โชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง: หนุนดวงชะตาให้ประสบความสำเร็จในกิจการงานต่างๆ นำมาซึ่งโชคลาภ
มหาอุด: กันศาสตราวุธ ปืนยิงไม่ออก
ด้วยพุทธคุณที่ครอบคลุมทุกด้าน ประกอบกับความเก่าแก่และพุทธศิลป์อันงดงาม ทำให้พระผงสุพรรณมีค่านิยมสูงมากในวงการพระเครื่อง สนนราคาหลักล้านบาทขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์และพิมพ์ทรง ยิ่งเป็นพระพิมพ์หน้าแก่ที่สมบูรณ์สวยงาม ก็ยิ่งมีราคาสูงเป็นพิเศษ
ข้อควรระวังในการเช่าบูชา
เนื่องจากพระผงสุพรรณเป็นพระเครื่องที่มีค่านิยมสูงและเป็นที่ต้องการอย่างมาก จึงมีการทำเลียนแบบจำนวนมาก การเช่าบูชาพระผงสุพรรณจึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์ หรือเช่าบูชาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อป้องกันการได้พระปลอม
การพิจารณาพระผงสุพรรณแท้นั้น ต้องอาศัยความชำนาญในการดูเนื้อหา มวลสาร พิมพ์ทรง ร่องรอยธรรมชาติจากการสร้างและการเก็บรักษา รวมถึงคราบราดำที่เกิดจากกาลเวลา
สรุป
พระผงสุพรรณเป็นสุดยอดพระเครื่องเนื้อดินที่ทรงคุณค่าทั้งทางด้านพุทธศิลป์ ประวัติศาสตร์ และพุทธคุณ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่าของจังหวัดสุพรรณบุรี และของวงการพระเครื่องไทย การได้ครอบครองพระผงสุพรรณแท้ๆ สักองค์ ถือเป็นความภาคภูมิใจและเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งต่อผู้ที่ได้ครอบครอง
ประวัติการค้นพบและตำนาน
พระผงสุพรรณถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2456 โดย พระพุทธบาทบรมธาตุ (คนฺธรสเถร) หรือ หลวงพ่อเฒ่า อดีตเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ในขณะที่ทำการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระปรางค์ประธานของวัด ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
การค้นพบในครั้งนั้นพบพระเครื่องจำนวนมากบรรจุอยู่ภายในกรุชั้นบนขององค์พระปรางค์ พร้อมกับแผ่นจารึกทองคำโบราณ (ลานทอง) ที่ระบุถึงประวัติการสร้างพระเครื่องชุดนี้ โดยหลวงพ่อเฒ่าได้นำพระเครื่องที่ค้นพบออกแจกจ่ายแก่ผู้ร่วมทำบุญบูรณะวัด และส่วนหนึ่งได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่กุฏิของท่าน
ตามจารึกบนลานทอง ระบุว่า พระมหาเถรปิยะทัสสี เป็นผู้สร้างพระผงสุพรรณขึ้นในสมัย พระเจ้าบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 19-20 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน นอกจากนี้ ในจารึกยังกล่าวถึงพิธีการสร้างที่พิถีพิถัน โดยใช้มวลสารศักดิ์สิทธิ์นานาชนิด และพุทธาภิเษกโดยพระเถระผู้ทรงคุณวิเศษในยุคนั้น
พุทธลักษณะและเนื้อหามวลสาร
พระผงสุพรรณเป็นพระเนื้อดินเผาที่มีพุทธศิลปะแบบอู่ทองผสมผสานกับทวารวดีเล็กน้อย มีขนาดกะทัดรัด เหมาะแก่การอาราธนาขึ้นคอ พุทธลักษณะที่สำคัญมีดังนี้:
พิมพ์ทรง: โดยทั่วไปมี 3 พิมพ์หลัก คือพิมพ์หน้าแก่: มีพระพักตร์ค่อนข้างยาว สังเกตเห็นเค้าพระพักตร์คล้ายคนมีอายุ ดวงตาโปนเล็กน้อย ปากเม้ม จมูกโด่งเป็นสัน
พิมพ์หน้ากลาง: มีพระพักตร์อิ่มเอิบกว่าพิมพ์หน้าแก่ รูปหน้ากลมมน จมูกโด่ง ปากกว้างกว่าเล็กน้อย
พิมพ์หน้าหนุ่ม: มีพระพักตร์กลมมน อ่อนเยาว์ ดวงตารีเล็ก ปากเล็ก จมูกโด่ง
ปาง: เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร บนฐานบัวเล็บช้าง ด้านหลังเป็นหลังเรียบ หรือหลังลายผ้า
เนื้อหามวลสาร: เป็นพระเนื้อดินละเอียด มีความแกร่ง ผ่านการเผาที่อุณหภูมิพอเหมาะ เนื้อหาของพระผงสุพรรณนั้นมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและตำแหน่งในการเผา โดยแบ่งออกได้เป็น 3 วรรณะหลัก คือวรรณะสีดำ (วรรณะสัมฤทธิ์): มีเนื้อละเอียดแน่น ผิวเป็นมันคล้ายสัมฤทธิ์ เกิดจากการเผาในอุณหภูมิสูงและขาดออกซิเจน
วรรณะสีเขียว (วรรณะหม้อใหม่): มีสีเขียวอมดำคล้ายสีของหม้อที่ถูกเผาใหม่ๆ เนื้อละเอียด เนียนตา
วรรณะสีแดง (วรรณะครั่ง): มีสีแดงเข้มเหมือนสีครั่ง หรือแดงอมส้ม เนื้อค่อนข้างหยาบเล็กน้อย มักพบร่องรอยของแร่ธาตุต่างๆ แทรกอยู่ในเนื้อพระ
จุดเด่นของพระผงสุพรรณคือ "ราดำ" หรือ "รารัก" ที่เกิดจากเชื้อราธรรมชาติที่ฝังตัวในเนื้อพระมานานนับร้อยปี ทำให้เกิดคราบสีดำปกคลุมอยู่ตามซอกพระ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญในการพิจารณาความแท้
พุทธคุณและค่านิยม
พุทธคุณของพระผงสุพรรณ เป็นที่เลื่องลือมายาวนาน โดยเน้นไปในด้าน:
แคล้วคลาดปลอดภัย: ป้องกันภยันตรายทั้งปวง รอดพ้นจากอุบัติเหตุและเหตุร้าย
คงกระพันชาตรี: อยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า หรือได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
เมตตามหานิยม: เป็นที่รักใคร่ของผู้คน ผู้ใหญ่เอ็นดู เจ้านายเมตตา
โชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง: หนุนดวงชะตาให้ประสบความสำเร็จในกิจการงานต่างๆ นำมาซึ่งโชคลาภ
มหาอุด: กันศาสตราวุธ ปืนยิงไม่ออก
ด้วยพุทธคุณที่ครอบคลุมทุกด้าน ประกอบกับความเก่าแก่และพุทธศิลป์อันงดงาม ทำให้พระผงสุพรรณมีค่านิยมสูงมากในวงการพระเครื่อง สนนราคาหลักล้านบาทขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์และพิมพ์ทรง ยิ่งเป็นพระพิมพ์หน้าแก่ที่สมบูรณ์สวยงาม ก็ยิ่งมีราคาสูงเป็นพิเศษ
ข้อควรระวังในการเช่าบูชา
เนื่องจากพระผงสุพรรณเป็นพระเครื่องที่มีค่านิยมสูงและเป็นที่ต้องการอย่างมาก จึงมีการทำเลียนแบบจำนวนมาก การเช่าบูชาพระผงสุพรรณจึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้และประสบการณ์ หรือเช่าบูชาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อป้องกันการได้พระปลอม
การพิจารณาพระผงสุพรรณแท้นั้น ต้องอาศัยความชำนาญในการดูเนื้อหา มวลสาร พิมพ์ทรง ร่องรอยธรรมชาติจากการสร้างและการเก็บรักษา รวมถึงคราบราดำที่เกิดจากกาลเวลา
สรุป
พระผงสุพรรณเป็นสุดยอดพระเครื่องเนื้อดินที่ทรงคุณค่าทั้งทางด้านพุทธศิลป์ ประวัติศาสตร์ และพุทธคุณ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่าของจังหวัดสุพรรณบุรี และของวงการพระเครื่องไทย การได้ครอบครองพระผงสุพรรณแท้ๆ สักองค์ ถือเป็นความภาคภูมิใจและเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งต่อผู้ที่ได้ครอบครอง
บทความที่เกี่ยวข้อง
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 13 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
11 ก.ค. 2025