หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ
อัพเดทล่าสุด: 30 มิ.ย. 2025
74 ผู้เข้าชม
หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ หรือในสมณศักดิ์พระธรรมวรราชมุนี (คูณ ปริสุทฺโธ) คือพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ท่านเป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศและทั่วโลก ด้วยปฏิปทาอันเรียบง่าย เมตตาธรรมอันเปี่ยมล้น และพุทธาคมอันเข้มขลัง บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับชีวประวัติอันทรงคุณค่า คำสอนอันเป็นอมตะ และปาฏิหาริย์แห่งศรัทธาของหลวงพ่อคูณอย่างละเอียด
ปฐมวัยและการเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ มีนามเดิมว่า คูณ ฉัตรพลกรัง ถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2466 ณ บ้านไร่ ตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ในครอบครัวชาวนาที่มีฐานะปานกลาง ตั้งแต่เยาว์วัย หลวงพ่อคูณเป็นเด็กที่แตกต่างจากผู้อื่น ท่านมีความสนใจในเรื่องเวทมนตร์คาถาและไสยศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก มักจะติดตามไปดูการทำพิธีต่างๆ ที่หมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งเป็นสิ่งที่ปลูกฝังความสนใจในพุทธาคมแก่ท่านในภายหลัง
เมื่ออายุได้ 21 ปี ท่านได้ตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ อุปสมบทเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2487 ณ วัดถนนหักใหญ่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา โดยมีพระครูวิจิตรธรรมคุณ (หลวงพ่อจัง) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "ปริสุทฺโธ" หลังจากอุปสมบท ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างมุ่งมั่น และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อแดง วัดบ้านไร่ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาอาคมและวิทยาคมต่างๆ ให้แก่ท่าน
การศึกษาพุทธาคมและธุดงควัตร
หลวงพ่อคูณได้ร่ำเรียนวิชาอาคมจากหลวงพ่อแดงอย่างจริงจัง ทั้งด้านการปลุกเสกวัตถุมงคล การลงตะกรุด การเป่ากระหม่อม และการรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยพลังจิต นอกจากนี้ ท่านยังได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขา เพื่อแสวงหาความสงบและฝึกฝนจิตใจให้แข็งแกร่ง ท่านได้พบเจอครูบาอาจารย์อีกหลายรูปในระหว่างการธุดงค์ ซึ่งได้มอบวิชาความรู้และประสบการณ์อันล้ำค่าให้แก่ท่าน
การธุดงค์ของหลวงพ่อคูณนั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย ท่านเผชิญหน้ากับความยากลำบากนานัปการ แต่ก็ไม่เคยย่อท้อ ทำให้จิตใจของท่านเข้มแข็งขึ้น และความเชื่อมั่นในพุทธาคมก็ยิ่งเพิ่มพูน ท่านได้ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด รักษาศีลอย่างบริสุทธิ์ และบำเพ็ญเพียรอย่างไม่ลดละ เพื่อให้บรรลุถึงความรู้แจ้งเห็นจริงในพระธรรม
ปฏิปทาอันเรียบง่ายและเมตตาธรรมอันเปี่ยมล้น
หลวงพ่อคูณเป็นที่รู้จักจากปฏิปทาอันเรียบง่ายและสมถะ ท่านมักจะนั่งยองๆ สูบบุหรี่ และพูดจาแบบชาวบ้าน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ท่านเข้าถึงใจผู้คนได้ง่าย ไม่ว่าใครจะมาจากชนชั้นใด หรือมีฐานะอย่างไร ท่านก็เมตตาเสมอ ท่านไม่เคยถือตัว และพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกคนที่มาหาท่าน
เมตตาธรรมของหลวงพ่อคูณนั้นแผ่ไพศาล ท่านไม่เพียงแต่ให้พรและวัตถุมงคลเท่านั้น แต่ยังให้กำลังใจ ให้สติปัญญา และให้หนทางแห่งการดำเนินชีวิตที่ดี ท่านเป็นที่พึ่งทางใจของมหาชนมากมาย ไม่ว่าจะมีปัญหาใดๆ ก็มักจะมาขอคำปรึกษาและกำลังใจจากท่านเสมอ
พุทธาคมอันเข้มขลังและวัตถุมงคลอันศักดิ์สิทธิ์
หลวงพ่อคูณเป็นที่เลื่องลือในเรื่องพุทธาคมอันเข้มขลัง วัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสก ไม่ว่าจะเป็นพระเครื่อง ตะกรุด หรือเหรียญต่างๆ ล้วนเป็นที่ต้องการของบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสม เพราะเชื่อกันว่ามีพุทธคุณครอบจักรวาล ทั้งด้านแคล้วคลาด ปลอดภัย เมตตามหานิยม โชคลาภ และคงกระพันชาตรี
วัตถุมงคลที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักกันดีของหลวงพ่อคูณ เช่น เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นต่างๆ ตะกรุดทองคำ ที่ท่านมักจะฝังใต้ท้องแขนให้กับลูกศิษย์ และ วัตถุมงคลรุ่นเจริญพร ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก การปลุกเสกวัตถุมงคลของท่านไม่ได้เน้นที่ความสวยงาม แต่เน้นที่พุทธคุณที่เกิดจากการปลุกเสกอย่างตั้งใจและจิตที่บริสุทธิ์ของท่าน
การพัฒนาวัดบ้านไร่และสาธารณประโยชน์
หลวงพ่อคูณได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการพัฒนาวัดบ้านไร่ให้เจริญรุ่งเรือง ท่านได้ริเริ่มโครงการต่างๆ มากมาย เช่น การสร้างอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ และอาคารเสนาสนะต่างๆ เพื่อรองรับพุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาทำบุญและปฏิบัติธรรม
นอกจากนี้ หลวงพ่อคูณยังเป็นพระนักพัฒนาที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ท่านได้บริจาคเงินที่ได้จากการบูชาวัตถุมงคลและเงินบริจาคจากศิษยานุศิษย์เพื่อสร้างสาธารณประโยชน์มากมาย อาทิ:
สร้างโรงพยาบาล: ท่านได้บริจาคเงินเพื่อสร้างโรงพยาบาลด่านขุนทด และสนับสนุนการสร้างโรงพยาบาลอื่นๆ ทั่วประเทศ
สร้างโรงเรียนและสถานศึกษา: ท่านได้สนับสนุนการศึกษาโดยการบริจาคเงินสร้างโรงเรียนและอาคารเรียน
สร้างถนนและสะพาน: เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของชาวบ้าน
บริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย: ไม่ว่าจะมีภัยพิบัติใดๆ เกิดขึ้น หลวงพ่อคูณก็พร้อมที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือเสมอ
การที่หลวงพ่อคูณได้บริจาคทรัพย์สินจำนวนมหาศาลเพื่อสาธารณประโยชน์ ทำให้ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็น "พระผู้ให้" อย่างแท้จริง
ปัจฉิมวัยและการละสังขาร
ในช่วงปัจฉิมวัย หลวงพ่อคูณยังคงรับแขกและให้พรแก่ลูกศิษย์อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย แม้ว่าสังขารของท่านจะร่วงโรยไปตามกาลเวลา ท่านยังคงรักษาปฏิปทาอันเรียบง่ายและเป็นที่พึ่งของมหาชนเสมอมา
หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ได้ละสังขารด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 สิริรวมอายุได้ 91 ปี 7 เดือน 12 วัน พรรษา 71 การจากไปของท่านสร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่พุทธศาสนิกชนทั่วโลก แต่ธรรมคำสอนและคุณงามความดีของท่านยังคงอยู่ในใจของทุกคน และเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตที่ดีงามตลอดไป
ข้อสรุป
หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ คือพระเกจิอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้อุทิศทั้งชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนาและสาธารณประโยชน์ ท่านเป็นที่รักและเคารพของมหาชน ไม่ใช่เพียงเพราะพุทธาคมอันเข้มขลัง แต่เป็นเพราะเมตตาธรรมอันเปี่ยมล้น ปฏิปทาอันเรียบง่าย และการเป็น "พระผู้ให้" อย่างแท้จริง คุณงามความดีและคำสอนของหลวงพ่อคูณจะยังคงเป็นมรดกอันล้ำค่าที่สืบทอดต่อไปยังคนรุ่นหลัง และเป็นเครื่องเตือนใจให้ทุกคนดำเนินชีวิตด้วยความดีงาม มีเมตตา และรู้จักการให้
ปฐมวัยและการเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ มีนามเดิมว่า คูณ ฉัตรพลกรัง ถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2466 ณ บ้านไร่ ตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ในครอบครัวชาวนาที่มีฐานะปานกลาง ตั้งแต่เยาว์วัย หลวงพ่อคูณเป็นเด็กที่แตกต่างจากผู้อื่น ท่านมีความสนใจในเรื่องเวทมนตร์คาถาและไสยศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก มักจะติดตามไปดูการทำพิธีต่างๆ ที่หมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งเป็นสิ่งที่ปลูกฝังความสนใจในพุทธาคมแก่ท่านในภายหลัง
เมื่ออายุได้ 21 ปี ท่านได้ตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ อุปสมบทเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2487 ณ วัดถนนหักใหญ่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา โดยมีพระครูวิจิตรธรรมคุณ (หลวงพ่อจัง) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "ปริสุทฺโธ" หลังจากอุปสมบท ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างมุ่งมั่น และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อแดง วัดบ้านไร่ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาอาคมและวิทยาคมต่างๆ ให้แก่ท่าน
การศึกษาพุทธาคมและธุดงควัตร
หลวงพ่อคูณได้ร่ำเรียนวิชาอาคมจากหลวงพ่อแดงอย่างจริงจัง ทั้งด้านการปลุกเสกวัตถุมงคล การลงตะกรุด การเป่ากระหม่อม และการรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยพลังจิต นอกจากนี้ ท่านยังได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขา เพื่อแสวงหาความสงบและฝึกฝนจิตใจให้แข็งแกร่ง ท่านได้พบเจอครูบาอาจารย์อีกหลายรูปในระหว่างการธุดงค์ ซึ่งได้มอบวิชาความรู้และประสบการณ์อันล้ำค่าให้แก่ท่าน
การธุดงค์ของหลวงพ่อคูณนั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย ท่านเผชิญหน้ากับความยากลำบากนานัปการ แต่ก็ไม่เคยย่อท้อ ทำให้จิตใจของท่านเข้มแข็งขึ้น และความเชื่อมั่นในพุทธาคมก็ยิ่งเพิ่มพูน ท่านได้ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด รักษาศีลอย่างบริสุทธิ์ และบำเพ็ญเพียรอย่างไม่ลดละ เพื่อให้บรรลุถึงความรู้แจ้งเห็นจริงในพระธรรม
ปฏิปทาอันเรียบง่ายและเมตตาธรรมอันเปี่ยมล้น
หลวงพ่อคูณเป็นที่รู้จักจากปฏิปทาอันเรียบง่ายและสมถะ ท่านมักจะนั่งยองๆ สูบบุหรี่ และพูดจาแบบชาวบ้าน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ท่านเข้าถึงใจผู้คนได้ง่าย ไม่ว่าใครจะมาจากชนชั้นใด หรือมีฐานะอย่างไร ท่านก็เมตตาเสมอ ท่านไม่เคยถือตัว และพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกคนที่มาหาท่าน
เมตตาธรรมของหลวงพ่อคูณนั้นแผ่ไพศาล ท่านไม่เพียงแต่ให้พรและวัตถุมงคลเท่านั้น แต่ยังให้กำลังใจ ให้สติปัญญา และให้หนทางแห่งการดำเนินชีวิตที่ดี ท่านเป็นที่พึ่งทางใจของมหาชนมากมาย ไม่ว่าจะมีปัญหาใดๆ ก็มักจะมาขอคำปรึกษาและกำลังใจจากท่านเสมอ
พุทธาคมอันเข้มขลังและวัตถุมงคลอันศักดิ์สิทธิ์
หลวงพ่อคูณเป็นที่เลื่องลือในเรื่องพุทธาคมอันเข้มขลัง วัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสก ไม่ว่าจะเป็นพระเครื่อง ตะกรุด หรือเหรียญต่างๆ ล้วนเป็นที่ต้องการของบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสม เพราะเชื่อกันว่ามีพุทธคุณครอบจักรวาล ทั้งด้านแคล้วคลาด ปลอดภัย เมตตามหานิยม โชคลาภ และคงกระพันชาตรี
วัตถุมงคลที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักกันดีของหลวงพ่อคูณ เช่น เหรียญหลวงพ่อคูณ รุ่นต่างๆ ตะกรุดทองคำ ที่ท่านมักจะฝังใต้ท้องแขนให้กับลูกศิษย์ และ วัตถุมงคลรุ่นเจริญพร ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมาก การปลุกเสกวัตถุมงคลของท่านไม่ได้เน้นที่ความสวยงาม แต่เน้นที่พุทธคุณที่เกิดจากการปลุกเสกอย่างตั้งใจและจิตที่บริสุทธิ์ของท่าน
การพัฒนาวัดบ้านไร่และสาธารณประโยชน์
หลวงพ่อคูณได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการพัฒนาวัดบ้านไร่ให้เจริญรุ่งเรือง ท่านได้ริเริ่มโครงการต่างๆ มากมาย เช่น การสร้างอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ และอาคารเสนาสนะต่างๆ เพื่อรองรับพุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาทำบุญและปฏิบัติธรรม
นอกจากนี้ หลวงพ่อคูณยังเป็นพระนักพัฒนาที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ท่านได้บริจาคเงินที่ได้จากการบูชาวัตถุมงคลและเงินบริจาคจากศิษยานุศิษย์เพื่อสร้างสาธารณประโยชน์มากมาย อาทิ:
สร้างโรงพยาบาล: ท่านได้บริจาคเงินเพื่อสร้างโรงพยาบาลด่านขุนทด และสนับสนุนการสร้างโรงพยาบาลอื่นๆ ทั่วประเทศ
สร้างโรงเรียนและสถานศึกษา: ท่านได้สนับสนุนการศึกษาโดยการบริจาคเงินสร้างโรงเรียนและอาคารเรียน
สร้างถนนและสะพาน: เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของชาวบ้าน
บริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย: ไม่ว่าจะมีภัยพิบัติใดๆ เกิดขึ้น หลวงพ่อคูณก็พร้อมที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือเสมอ
การที่หลวงพ่อคูณได้บริจาคทรัพย์สินจำนวนมหาศาลเพื่อสาธารณประโยชน์ ทำให้ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็น "พระผู้ให้" อย่างแท้จริง
ปัจฉิมวัยและการละสังขาร
ในช่วงปัจฉิมวัย หลวงพ่อคูณยังคงรับแขกและให้พรแก่ลูกศิษย์อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย แม้ว่าสังขารของท่านจะร่วงโรยไปตามกาลเวลา ท่านยังคงรักษาปฏิปทาอันเรียบง่ายและเป็นที่พึ่งของมหาชนเสมอมา
หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ได้ละสังขารด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 สิริรวมอายุได้ 91 ปี 7 เดือน 12 วัน พรรษา 71 การจากไปของท่านสร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่พุทธศาสนิกชนทั่วโลก แต่ธรรมคำสอนและคุณงามความดีของท่านยังคงอยู่ในใจของทุกคน และเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตที่ดีงามตลอดไป
ข้อสรุป
หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ คือพระเกจิอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้อุทิศทั้งชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนาและสาธารณประโยชน์ ท่านเป็นที่รักและเคารพของมหาชน ไม่ใช่เพียงเพราะพุทธาคมอันเข้มขลัง แต่เป็นเพราะเมตตาธรรมอันเปี่ยมล้น ปฏิปทาอันเรียบง่าย และการเป็น "พระผู้ให้" อย่างแท้จริง คุณงามความดีและคำสอนของหลวงพ่อคูณจะยังคงเป็นมรดกอันล้ำค่าที่สืบทอดต่อไปยังคนรุ่นหลัง และเป็นเครื่องเตือนใจให้ทุกคนดำเนินชีวิตด้วยความดีงาม มีเมตตา และรู้จักการให้
บทความที่เกี่ยวข้อง
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 13 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
11 ก.ค. 2025