เจ้าคุณนร
อัพเดทล่าสุด: 30 มิ.ย. 2025
120 ผู้เข้าชม
พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต (ธมฺมวิตกฺโก ภิกขุ หรือ ตรึก จินตยานนท์) หรือที่พุทธศาสนิกชนรู้จักกันในนาม "เจ้าคุณนร" เป็นพระภิกษุที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระอริยสงฆ์ผู้มีปฏิปทาอันน่าเลื่อมใสยิ่งรูปหนึ่งในประเทศไทย ท่านเป็นที่เคารพศรัทธาอย่างกว้างขวางจากพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ ด้วยวัตรปฏิบัติอันเคร่งครัด ความเพียรในการเจริญภาวนา และเมตตาธรรมที่แผ่ไพศาลต่อมวลชน
ประวัติและปฐมวัย
เจ้าคุณนร มีนามเดิมว่า ตรึก จินตยานนท์ เกิดเมื่อวันเสาร์ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีฉลู ตรงกับวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๔๐ (หากนับตามปีปัจจุบันคือ พ.ศ. 2439) ที่บ้านท่าอิฐ อำเภอบางโพ จังหวัดนนทบุรี (ปัจจุบันคือตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี) บิดาชื่อ นายพุธ มารดาชื่อ นางแก้ว จินตยานนท์ ท่านเป็นบุตรคนโตในบรรดาพี่น้อง ๔ คน
ในวัยเด็ก ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร และได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย แสดงให้เห็นถึงความใฝ่รู้และตั้งใจศึกษาเล่าเรียนมาตั้งแต่เยาว์วัย หลังจากสำเร็จการศึกษา ท่านได้เข้ารับราชการในกระทรวงมหาดไทย โดยมีตำแหน่งสูงสุดเป็น หลวงธรณีนารถเริงรณ (เทียบเท่าผู้ว่าราชการจังหวัดในปัจจุบัน) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถและความก้าวหน้าในทางโลกของท่าน
เส้นทางสู่ร่มกาสาวพัสตร์
ชีวิตทางโลกของเจ้าคุณนรดำเนินไปอย่างราบรื่นและรุ่งเรือง แต่ด้วยบุญบารมีที่สะสมมาแต่ปางก่อน ท่านได้เริ่มหันเข้าสู่ร่มเงาแห่งพระธรรม ในช่วงที่ท่านยังรับราชการอยู่ ท่านมักจะเข้าวัดฟังธรรม และปฏิบัติธรรมอยู่เป็นนิจ โดยเฉพาะที่วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่ท่านมีความผูกพันเป็นอย่างยิ่ง
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของท่านเกิดขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสของท่านอย่างยิ่ง ด้วยความตั้งใจที่จะอุทิศบุญกุศลถวายแด่พระองค์ท่าน และด้วยจิตศรัทธาอันแรงกล้าในพระพุทธศาสนา ทำให้ท่านตัดสินใจ อุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๘ ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร โดยมีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) เป็นพระอุปัชฌาย์
วัตรปฏิบัติอันน่าเลื่อมใส
หลังจากอุปสมบทแล้ว เจ้าคุณนรได้ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างเคร่งครัด ท่านดำรงตนเป็นพระภิกษุผู้สำรวมในพระวินัยอย่างยิ่งยวด มีความเป็นอยู่สมถะ ไม่ยึดติดในลาภสักการะ ไม่เคยออกนอกวัดเลยตลอดชีวิตสมณเพศที่เหลืออยู่ แม้กระทั่งเมื่อได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต เมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๙ ซึ่งเป็นสมณศักดิ์ที่ไม่เคยมีพระภิกษุรูปใดได้รับมาก่อน คือเป็น "พระ" โดยไม่ได้เป็น "พระครู" หรือ "เจ้าคุณ" และตำแหน่งนี้เป็นสมณศักดิ์ที่มาจากชื่อเดิมของท่านในขณะเป็นฆราวาสก็ตาม ท่านก็ยังคงปฏิบัติตนเช่นเดิม
จุดเด่นในวัตรปฏิบัติของเจ้าคุณนรคือ:
ความเพียรในการภาวนา: ท่านใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเจริญสมาธิภาวนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง หรือนอน ท่านก็ยังคงรักษาจิตให้อยู่ในสมาธิเสมอ ทำให้ท่านมีจิตที่สงบและมั่นคง
การถือธุดงควัตรบางข้อ: แม้จะอยู่ในวัด แต่ท่านก็ถือปฏิบัติธุดงควัตรบางข้อ เช่น ฉันภัตตาหารมื้อเดียว และไม่รับเงินทอง อันเป็นการฝึกฝนความมักน้อยสันโดษ
ไม่ยึดติดในลาภสักการะ: ท่านไม่เคยสะสมทรัพย์สินใดๆ ไม่รับกิจนิมนต์นอกวัด ไม่เดินทางไปไหนมาไหน การกราบไหว้บูชาท่านจะต้องไปที่วัดเท่านั้น
เมตตาธรรม: แม้ท่านจะไม่ได้แสดงธรรมเทศนาอย่างเป็นทางการบ่อยครั้ง แต่คำสอนของท่านมักจะออกมาจากความเมตตา และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้ฟัง ท่านมักจะใช้การตอบคำถามสั้นๆ หรือการประพฤติปฏิบัติเป็นแบบอย่าง
ความศักดิ์สิทธิ์: มีเรื่องเล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์และอภิญญาของท่านมากมาย เช่น การล่วงรู้อนาคต การหยั่งรู้เหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นผลมาจากความบริสุทธิ์แห่งศีลและสมาธิภาวนาของท่าน
การละสังขาร
เจ้าคุณนรละสังขารด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๔ ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร สิริรวมอายุได้ ๗๓ ปี พรรษา ๔๕ การจากไปของท่านสร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่พุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง แต่ธรรมะคำสอนและปฏิปทาอันงดงามของท่านยังคงเป็นที่จดจำและเป็นแบบอย่างให้แก่ผู้คนตลอดมา
มรดกธรรมและคุณูปการ
เจ้าคุณนรไม่ได้ทิ้งตำราหรือผลงานทางวิชาการมากมาย แต่ท่านได้ทิ้งมรดกธรรมอันล้ำค่าไว้ในรูปของวัตรปฏิบัติอันบริสุทธิ์และคำสอนที่เรียบง่ายแต่ลุ่มลึก ซึ่งยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนมากมาย ท่านเป็นเครื่องยืนยันว่าการเข้าถึงธรรมะไม่ใช่เรื่องยาก หากมีความตั้งใจและความเพียรพยายาม
แม้ว่าท่านจะจากไปนานแล้ว แต่ชื่อเสียงและบารมีของเจ้าคุณนรก็ยังคงแผ่ไพศาล วัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกได้รับความนิยมและเป็นที่แสวงหาอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเชื่อกันว่ามีพุทธคุณสูง แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ท่านได้มอบให้คือ แบบอย่างแห่งการปฏิบัติธรรม ที่แสดงให้เห็นว่าการละวางกิเลส การตั้งมั่นในความดี และการมีเมตตาต่อผู้อื่น คือหนทางสู่ความสุขที่แท้จริง
ประวัติและปฐมวัย
เจ้าคุณนร มีนามเดิมว่า ตรึก จินตยานนท์ เกิดเมื่อวันเสาร์ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีฉลู ตรงกับวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๔๐ (หากนับตามปีปัจจุบันคือ พ.ศ. 2439) ที่บ้านท่าอิฐ อำเภอบางโพ จังหวัดนนทบุรี (ปัจจุบันคือตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี) บิดาชื่อ นายพุธ มารดาชื่อ นางแก้ว จินตยานนท์ ท่านเป็นบุตรคนโตในบรรดาพี่น้อง ๔ คน
ในวัยเด็ก ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร และได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย แสดงให้เห็นถึงความใฝ่รู้และตั้งใจศึกษาเล่าเรียนมาตั้งแต่เยาว์วัย หลังจากสำเร็จการศึกษา ท่านได้เข้ารับราชการในกระทรวงมหาดไทย โดยมีตำแหน่งสูงสุดเป็น หลวงธรณีนารถเริงรณ (เทียบเท่าผู้ว่าราชการจังหวัดในปัจจุบัน) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถและความก้าวหน้าในทางโลกของท่าน
เส้นทางสู่ร่มกาสาวพัสตร์
ชีวิตทางโลกของเจ้าคุณนรดำเนินไปอย่างราบรื่นและรุ่งเรือง แต่ด้วยบุญบารมีที่สะสมมาแต่ปางก่อน ท่านได้เริ่มหันเข้าสู่ร่มเงาแห่งพระธรรม ในช่วงที่ท่านยังรับราชการอยู่ ท่านมักจะเข้าวัดฟังธรรม และปฏิบัติธรรมอยู่เป็นนิจ โดยเฉพาะที่วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่ท่านมีความผูกพันเป็นอย่างยิ่ง
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของท่านเกิดขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสของท่านอย่างยิ่ง ด้วยความตั้งใจที่จะอุทิศบุญกุศลถวายแด่พระองค์ท่าน และด้วยจิตศรัทธาอันแรงกล้าในพระพุทธศาสนา ทำให้ท่านตัดสินใจ อุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๘ ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร โดยมีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) เป็นพระอุปัชฌาย์
วัตรปฏิบัติอันน่าเลื่อมใส
หลังจากอุปสมบทแล้ว เจ้าคุณนรได้ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างเคร่งครัด ท่านดำรงตนเป็นพระภิกษุผู้สำรวมในพระวินัยอย่างยิ่งยวด มีความเป็นอยู่สมถะ ไม่ยึดติดในลาภสักการะ ไม่เคยออกนอกวัดเลยตลอดชีวิตสมณเพศที่เหลืออยู่ แม้กระทั่งเมื่อได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต เมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๙ ซึ่งเป็นสมณศักดิ์ที่ไม่เคยมีพระภิกษุรูปใดได้รับมาก่อน คือเป็น "พระ" โดยไม่ได้เป็น "พระครู" หรือ "เจ้าคุณ" และตำแหน่งนี้เป็นสมณศักดิ์ที่มาจากชื่อเดิมของท่านในขณะเป็นฆราวาสก็ตาม ท่านก็ยังคงปฏิบัติตนเช่นเดิม
จุดเด่นในวัตรปฏิบัติของเจ้าคุณนรคือ:
ความเพียรในการภาวนา: ท่านใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเจริญสมาธิภาวนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง หรือนอน ท่านก็ยังคงรักษาจิตให้อยู่ในสมาธิเสมอ ทำให้ท่านมีจิตที่สงบและมั่นคง
การถือธุดงควัตรบางข้อ: แม้จะอยู่ในวัด แต่ท่านก็ถือปฏิบัติธุดงควัตรบางข้อ เช่น ฉันภัตตาหารมื้อเดียว และไม่รับเงินทอง อันเป็นการฝึกฝนความมักน้อยสันโดษ
ไม่ยึดติดในลาภสักการะ: ท่านไม่เคยสะสมทรัพย์สินใดๆ ไม่รับกิจนิมนต์นอกวัด ไม่เดินทางไปไหนมาไหน การกราบไหว้บูชาท่านจะต้องไปที่วัดเท่านั้น
เมตตาธรรม: แม้ท่านจะไม่ได้แสดงธรรมเทศนาอย่างเป็นทางการบ่อยครั้ง แต่คำสอนของท่านมักจะออกมาจากความเมตตา และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้ฟัง ท่านมักจะใช้การตอบคำถามสั้นๆ หรือการประพฤติปฏิบัติเป็นแบบอย่าง
ความศักดิ์สิทธิ์: มีเรื่องเล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์และอภิญญาของท่านมากมาย เช่น การล่วงรู้อนาคต การหยั่งรู้เหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นผลมาจากความบริสุทธิ์แห่งศีลและสมาธิภาวนาของท่าน
การละสังขาร
เจ้าคุณนรละสังขารด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๔ ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร สิริรวมอายุได้ ๗๓ ปี พรรษา ๔๕ การจากไปของท่านสร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่พุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง แต่ธรรมะคำสอนและปฏิปทาอันงดงามของท่านยังคงเป็นที่จดจำและเป็นแบบอย่างให้แก่ผู้คนตลอดมา
มรดกธรรมและคุณูปการ
เจ้าคุณนรไม่ได้ทิ้งตำราหรือผลงานทางวิชาการมากมาย แต่ท่านได้ทิ้งมรดกธรรมอันล้ำค่าไว้ในรูปของวัตรปฏิบัติอันบริสุทธิ์และคำสอนที่เรียบง่ายแต่ลุ่มลึก ซึ่งยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนมากมาย ท่านเป็นเครื่องยืนยันว่าการเข้าถึงธรรมะไม่ใช่เรื่องยาก หากมีความตั้งใจและความเพียรพยายาม
แม้ว่าท่านจะจากไปนานแล้ว แต่ชื่อเสียงและบารมีของเจ้าคุณนรก็ยังคงแผ่ไพศาล วัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกได้รับความนิยมและเป็นที่แสวงหาอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเชื่อกันว่ามีพุทธคุณสูง แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ท่านได้มอบให้คือ แบบอย่างแห่งการปฏิบัติธรรม ที่แสดงให้เห็นว่าการละวางกิเลส การตั้งมั่นในความดี และการมีเมตตาต่อผู้อื่น คือหนทางสู่ความสุขที่แท้จริง
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตจิวเวลรี่: ประสบการณ์กว่า 20 ปี
2 ส.ค. 2025