ชิ้นงานประติมากรรมพระพุทธรูปจาก Jinttakan Crafted & Studio ที่นำมาเสนอนี้แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานงาน หัตถศิลป์ไทยแบบดั้งเดิม เข้ากับ ความละเอียดอ่อนและร่วมสมัย โดยมีองค์ประกอบการออกแบบที่โดดเด่นและน่าสนใจ
อัพเดทล่าสุด: 28 ก.ย. 2025
74 ผู้เข้าชม

1. องค์พระพุทธรูป (The Buddha Figure)
ปางสมาธิ: องค์พระพุทธรูปประทับนั่งในปางสมาธิ (Dhyana Mudra) แสดงถึงความสงบ, การตรัสรู้, และสติ โดยมีใบหน้าเปี่ยมด้วยเมตตาและรอยยิ้มอันสงบ
รัศมี: สวมเครื่องทรงที่มี อุษณีษะ (ส่วนบนสุดของศีรษะ) และมี เกศมาลา ที่เป็นทรงเปลวเพลิงหรือดอกบัวตูม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการตรัสรู้และความเป็นอัครบุรุษ
2. องค์ประกอบด้านหลังและซุ้มเรือนแก้ว (Aura and Canopy)
ลายกนกฉลุลาย: ส่วนของฉากหลังหรือซุ้มเรือนแก้ว (Aureole/Mandorla) ถูกออกแบบให้เป็นลายกนกหรือลายไทยที่ ฉลุลาย อย่างละเอียดอ่อน มีเส้นสายที่พลิ้วไหวและอ่อนช้อย ซึ่งเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความแม่นยำสูง
ตุ้มห้อยประดับ: มีตุ้มประดับเล็ก ๆ ห้อยลงมาจากซุ้มเรือนแก้ว ประดับด้วยอัญมณีสีม่วง ซึ่งช่วยเพิ่มมิติและความรู้สึกเคลื่อนไหวให้กับชิ้นงาน (เห็นชัดในภาพที่ 1)
3. แท่นฐานและองค์ประกอบพิเศษ (Pedestal and Special Elements)
งานศิลป์ชิ้นนี้โดดเด่นด้วยการใช้แท่นฐานที่มีความหมายทางพุทธศิลป์ที่แตกต่างกันในแต่ละภาพ
A. องค์ประกอบในภาพที่ 1: แท่นฐานดอกบัว
ฐานบัวคว่ำบัวหงาย: องค์พระประทับบนแท่นฐานที่มีลักษณะคล้าย ดอกบัว (Padmasana) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และการหลุดพ้นจากวัฏสงสาร
อัญมณีประดับ: มีการประดับ อัญมณีสีม่วง (อาจเป็นพลอย, เพชรรัสเซีย หรือวัสดุอื่น ๆ) ทั้งบริเวณกลีบดอกบัวและขอบฐาน ช่วยสร้างความรู้สึกหรูหราและศักดิ์สิทธิ์
ฐานนาค: ฐานล่างสุดมีลักษณะคล้ายลำตัวหรือเศียรของ พญานาค ที่ยกตัวขึ้นสองข้าง แสดงให้เห็นถึงการรวมเอาลวดลายเทพนิยายในพุทธศาสนามาใช้
B. องค์ประกอบในภาพที่ 2: พระปางนาคปรก (The Naga Protection)
พญานาค: จุดเด่นของภาพนี้คือการนำเสนอ พระพุทธรูปปางนาคปรก ซึ่งเป็นปางที่ระลึกถึงเหตุการณ์ที่พญานาคชื่อ มุจลินท์ ได้แผ่พังพานกำบังฝนให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขณะทรงบำเพ็ญเพียร
โครงสร้างนาค:
เศียรนาค: มีเศียรนาคหลายเศียรแผ่พังพานอยู่ด้านหลังพระเศียร (มีการใช้สีน้ำเงินอมม่วงและดำผสมผสานกับสีเงิน ซึ่งสร้างมิติที่น่าสนใจ)
ลำตัวนาค: ลำตัวนาคพันรอบองค์พระพุทธรูปหลายชั้น สร้างเป็นเหมือนที่กำบัง ทำให้ชิ้นงานดูมีพลังและน่าเกรงขาม
4. วัสดุและโทนสี (Materials and Color Palette)
โทนสี: เน้นสี เงิน/ขาวมุก เป็นสีหลัก ซึ่งสื่อถึงความบริสุทธิ์และสงบ ผสมผสานกับสี ม่วง/พลอยชมพู ซึ่งให้ความรู้สึกสูงศักดิ์และลึกลับ และสี ทอง/เหลืองอำพัน ที่รัศมี (ในภาพที่ 2) แสดงถึงความเจิดจรัสของการตรัสรู้
ฐานรอง: การใช้ ฐานไม้ สีเข้ม (น้ำตาลเข้ม) ช่วยขับเน้นให้องค์พระพุทธรูปสีเงินดูโดดเด่นและเป็นสง่ามากยิ่งขึ้น
สรุปแนวคิดการออกแบบ
การออกแบบของ Jinttakan Crafted & Studio ชิ้นนี้เป็นการตีความงาน พุทธศิลป์ไทยแบบประเพณี ด้วยการใช้ เทคนิคและวัสดุสมัยใหม่ มีการให้ความสำคัญกับ รายละเอียดของลวดลายกนก (Ornamental Filigree) และ สัญลักษณ์ทางพุทธศาสนา (เช่น ดอกบัว, นาค) อย่างมาก ชิ้นงานจึงไม่ได้เป็นเพียงประติมากรรมศาสนา แต่ยังเป็นงาน เครื่องประดับชั้นสูง ที่สื่อถึงความเชื่อ, ศรัทธา, และความวิจิตรงดงามของงานหัตถศิลป์ไทยได้อย่างลงตัว
ปางสมาธิ: องค์พระพุทธรูปประทับนั่งในปางสมาธิ (Dhyana Mudra) แสดงถึงความสงบ, การตรัสรู้, และสติ โดยมีใบหน้าเปี่ยมด้วยเมตตาและรอยยิ้มอันสงบ
รัศมี: สวมเครื่องทรงที่มี อุษณีษะ (ส่วนบนสุดของศีรษะ) และมี เกศมาลา ที่เป็นทรงเปลวเพลิงหรือดอกบัวตูม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการตรัสรู้และความเป็นอัครบุรุษ
2. องค์ประกอบด้านหลังและซุ้มเรือนแก้ว (Aura and Canopy)
ลายกนกฉลุลาย: ส่วนของฉากหลังหรือซุ้มเรือนแก้ว (Aureole/Mandorla) ถูกออกแบบให้เป็นลายกนกหรือลายไทยที่ ฉลุลาย อย่างละเอียดอ่อน มีเส้นสายที่พลิ้วไหวและอ่อนช้อย ซึ่งเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความแม่นยำสูง
ตุ้มห้อยประดับ: มีตุ้มประดับเล็ก ๆ ห้อยลงมาจากซุ้มเรือนแก้ว ประดับด้วยอัญมณีสีม่วง ซึ่งช่วยเพิ่มมิติและความรู้สึกเคลื่อนไหวให้กับชิ้นงาน (เห็นชัดในภาพที่ 1)
3. แท่นฐานและองค์ประกอบพิเศษ (Pedestal and Special Elements)
งานศิลป์ชิ้นนี้โดดเด่นด้วยการใช้แท่นฐานที่มีความหมายทางพุทธศิลป์ที่แตกต่างกันในแต่ละภาพ
A. องค์ประกอบในภาพที่ 1: แท่นฐานดอกบัว
ฐานบัวคว่ำบัวหงาย: องค์พระประทับบนแท่นฐานที่มีลักษณะคล้าย ดอกบัว (Padmasana) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และการหลุดพ้นจากวัฏสงสาร
อัญมณีประดับ: มีการประดับ อัญมณีสีม่วง (อาจเป็นพลอย, เพชรรัสเซีย หรือวัสดุอื่น ๆ) ทั้งบริเวณกลีบดอกบัวและขอบฐาน ช่วยสร้างความรู้สึกหรูหราและศักดิ์สิทธิ์
ฐานนาค: ฐานล่างสุดมีลักษณะคล้ายลำตัวหรือเศียรของ พญานาค ที่ยกตัวขึ้นสองข้าง แสดงให้เห็นถึงการรวมเอาลวดลายเทพนิยายในพุทธศาสนามาใช้
B. องค์ประกอบในภาพที่ 2: พระปางนาคปรก (The Naga Protection)
พญานาค: จุดเด่นของภาพนี้คือการนำเสนอ พระพุทธรูปปางนาคปรก ซึ่งเป็นปางที่ระลึกถึงเหตุการณ์ที่พญานาคชื่อ มุจลินท์ ได้แผ่พังพานกำบังฝนให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขณะทรงบำเพ็ญเพียร
โครงสร้างนาค:
เศียรนาค: มีเศียรนาคหลายเศียรแผ่พังพานอยู่ด้านหลังพระเศียร (มีการใช้สีน้ำเงินอมม่วงและดำผสมผสานกับสีเงิน ซึ่งสร้างมิติที่น่าสนใจ)
ลำตัวนาค: ลำตัวนาคพันรอบองค์พระพุทธรูปหลายชั้น สร้างเป็นเหมือนที่กำบัง ทำให้ชิ้นงานดูมีพลังและน่าเกรงขาม
4. วัสดุและโทนสี (Materials and Color Palette)
โทนสี: เน้นสี เงิน/ขาวมุก เป็นสีหลัก ซึ่งสื่อถึงความบริสุทธิ์และสงบ ผสมผสานกับสี ม่วง/พลอยชมพู ซึ่งให้ความรู้สึกสูงศักดิ์และลึกลับ และสี ทอง/เหลืองอำพัน ที่รัศมี (ในภาพที่ 2) แสดงถึงความเจิดจรัสของการตรัสรู้
ฐานรอง: การใช้ ฐานไม้ สีเข้ม (น้ำตาลเข้ม) ช่วยขับเน้นให้องค์พระพุทธรูปสีเงินดูโดดเด่นและเป็นสง่ามากยิ่งขึ้น
สรุปแนวคิดการออกแบบ
การออกแบบของ Jinttakan Crafted & Studio ชิ้นนี้เป็นการตีความงาน พุทธศิลป์ไทยแบบประเพณี ด้วยการใช้ เทคนิคและวัสดุสมัยใหม่ มีการให้ความสำคัญกับ รายละเอียดของลวดลายกนก (Ornamental Filigree) และ สัญลักษณ์ทางพุทธศาสนา (เช่น ดอกบัว, นาค) อย่างมาก ชิ้นงานจึงไม่ได้เป็นเพียงประติมากรรมศาสนา แต่ยังเป็นงาน เครื่องประดับชั้นสูง ที่สื่อถึงความเชื่อ, ศรัทธา, และความวิจิตรงดงามของงานหัตถศิลป์ไทยได้อย่างลงตัว
บทความที่เกี่ยวข้อง
ในโลกที่ความทรงจำมักเลือนหายไปตามกาลเวลา เหรียญที่ระลึก คือสิ่งเดียวที่สามารถหยุดเวลาและเก็บเรื่องราวอันมีค่าไว้ได้อย่างเป็นนิรันดร์
30 พ.ย. 2025
Jinttrakan Crafted & Studio: สตูดิโอสร้างสรรค์งานพุทธศิลป์ครบวงจร ที่มากกว่าแค่ "โรงหล่อพระ"
28 พ.ย. 2025
คุณเคยฝันถึงการสร้างสรรค์เครื่องประดับที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกไหม? เครื่องประดับที่สะท้อนถึงความเป็นคุณอย่างแท้จริง หรือเป็นของขวัญล้ำค่าที่มาจากฝีมือของคุณเอง?
26 พ.ย. 2025


